Name : Crank It Up
Artist : Ashley Tisdale Feat. Sean Garrett
Album : Guilty Pleasure
Writers : Niclas Molinder, Joacim Persson, Johan Alkenäs and David Jassy
Artist : Ashley Tisdale Feat. Sean Garrett
Album : Guilty Pleasure
Writers : Niclas Molinder, Joacim Persson, Johan Alkenäs and David Jassy
Th-Th-This beat is hypnotic
จังหวะเหมือนกับการสะกดจิต
I wanna ride like a shofa
จนอยากจะตะลอนล่องไป
The sound of zonic's
เสียงดนตรีของนักวิ่ง
Controlling me just like a rova
บังคับกันไม่ต่างอะไรกับโรวา
I go bionic, so D-D-DJ put it on
เปลี่ยนฉันเป็นหุ่นยนต์ ดีเจเปิดเพลงที
I'm losing logic and cruising deeper in the zone
ฉันสูญเสียตรรกะและถลำลึกเข้าไปในพื้นที่แห่งนั้น
[Sean Garrett:]
It's so cinematic
อย่างกับภาพยนตร์
Charismatic
ที่มีความสามารถพิเศษ
[Sean + Ashley:]
G-Got me froze up
ทำเอาฉันแข็งทื่อไปเลย
[Sean Garrett:]
This psychopathic
ต้อต้านระเบียบสังคม
Beat is something
จังหวะเป็นอะไรบางสิ่ง
[Sean + Ashley:]
I need a dose of
ฉันต้องการเพิ่มขึ้นอีก
I'm systematic
ฉันมีระบบของตัวเอง
Mo-Moving every single bone
ออกท่าทางด้วยกระดูกทุกท่อน
There's no mechanic
ไม่ต้องมีคนคอยดูแล
That can't understand what I'm on
เพราะเขาไม่เข้าใจหรอกว่าฉันเป็นอะไรไป
[Ashley:]
Let's crank it up (crank it up)
มาเหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Until the walls cave in
จนกว่ากำแพงเกิดอุโมงค์
Crank it up (Crank it up)
เหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Put the record on spin
ใส่แผ่นเสียงลงในเครื่อง
Cause I am ready to party
ฉันพร้อมแล้วสำหรับงานเลี้ยง
Gonna get my girls and get naughty
เหล่าเพื่อนสาวพากันมาออกลายกันหน่อย
Crank it up (Crank it up)
เหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Until the walls cave in
จนกว่ากำแพงเกิดอุโมงค์
Just crank it up
แค่เหวี่ยงให้สุดแรง
Oh, oh, oh, whoa
Oh, oh, oh, whoa (Crank it up)
Oh, oh, oh, whoa
Oh, oh, oh, whoa
Th-Th-This beat is melodic
จังหวะแบบนี้มันช่างไพเราะ
Harmonic, got me striking poses
ผสมกลมกลืนจนฉันต้องเก็กท่าทาง
I get up on it, electronically feeling so fresh
ฉันผสานไปกับมัน ดนตรีอิเล็กทรอนิคช่างสดใหม่
It's so erotic my body's like a cyclone
กระตุ้นอารมณ์เหลือเกิน ร่างกายของฉันเหมือนพายุ
I'm like a puppet, can't stop it
ราวกับเป็นหุ่นเชิด ไม่อาจหยุดได้
Drop it like a stone
ทิ้งตัวอย่างมีน้ำหนัก
[Sean Garrett:]
It's so cinematic
อย่างกับภาพยนตร์
Charismatic
ที่มีความสามารถพิเศษ
[Sean + Ashley:]
G-Got me froze up
ทำเอาฉันแข็งทื่อไปเลย
[Sean Garrett:]
This psychopathic
ต้อต้านระเบียบสังคม
Beat is something
จังหวะเป็นอะไรบางสิ่ง
[Sean + Ashley:]
I need a dose of
ฉันต้องการเพิ่มขึ้นอีก
I'm systematic
ฉันมีระบบของตัวเอง
Mo-Moving every single bone
ออกท่าทางด้วยกระดูกทุกท่อน
There's no mechanic
ไม่ต้องมีคนคอยดูแล
That can't understand what I'm on
เพราะเขาไม่เข้าใจหรอกว่าฉันเป็นอะไรไป
[Ashley:]
Let's crank it up (crank it up)
มาเหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Until the walls cave in
จนกว่ากำแพงเกิดอุโมงค์
Crank it up (Crank it up)
เหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Put the record on spin
ใส่แผ่นเสียงลงในเครื่อง
Cause I am ready to party
ฉันพร้อมแล้วสำหรับงานเลี้ยง
Gonna get my girls and get naughty
เหล่าเพื่อนสาวพากันมาออกลายกันหน่อย
Crank it up (Crank it up)
เหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Until the walls cave in
จนกว่ากำแพงเกิดอุโมงค์
Just crank it up
แค่เหวี่ยงให้สุดแรง
[Sean + Ashley:]
Up, up, up, DJ, up, up, up
ดีเจ เพิ่มอีก แรงอีก เอาอีก
Turn it up, turn it up, turn it up louder!
เร่งมันอีก เร่งมันอีก เร่งมันอีกให้ดังไปเลย!
[Ashley:]
Let's crank it up (crank it up)
มาเหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Until the walls cave in
จนกว่ากำแพงเกิดอุโมงค์
Crank it up (Crank it up)
เหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Put the record on spin
ใส่แผ่นเสียงลงในเครื่อง
Cause I am ready to party
ฉันพร้อมแล้วสำหรับงานเลี้ยง
Gonna get my girls and get naughty
เหล่าเพื่อนสาวพากันมาออกลายกันหน่อย
Crank it up (Crank it up)
เหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Until the walls cave in
จนกว่ากำแพงเกิดอุโมงค์
Just crank it up
แค่เหวี่ยงให้สุดแรง
I systematically mo-move every bone
เต้นไปอย่างมีระบบ เคลื่อนไหวด้วยกระดูกทุกท่อน
So crank it up I wanna get in the zone
เหวี่ยงให้สุดแรง ฉันอยากจะเข้าไปตรงนั้น
I systematically mo-move every bone
เต้นไปอย่างมีระบบ เคลื่อนไหวด้วยกระดูกทุกท่อน
So crank it up I wanna get in the zone
เหวี่ยงให้สุดแรง ฉันอยากจะเข้าไปตรงนั้น
จังหวะเหมือนกับการสะกดจิต
I wanna ride like a shofa
จนอยากจะตะลอนล่องไป
The sound of zonic's
เสียงดนตรีของนักวิ่ง
Controlling me just like a rova
บังคับกันไม่ต่างอะไรกับโรวา
I go bionic, so D-D-DJ put it on
เปลี่ยนฉันเป็นหุ่นยนต์ ดีเจเปิดเพลงที
I'm losing logic and cruising deeper in the zone
ฉันสูญเสียตรรกะและถลำลึกเข้าไปในพื้นที่แห่งนั้น
[Sean Garrett:]
It's so cinematic
อย่างกับภาพยนตร์
Charismatic
ที่มีความสามารถพิเศษ
[Sean + Ashley:]
G-Got me froze up
ทำเอาฉันแข็งทื่อไปเลย
[Sean Garrett:]
This psychopathic
ต้อต้านระเบียบสังคม
Beat is something
จังหวะเป็นอะไรบางสิ่ง
[Sean + Ashley:]
I need a dose of
ฉันต้องการเพิ่มขึ้นอีก
I'm systematic
ฉันมีระบบของตัวเอง
Mo-Moving every single bone
ออกท่าทางด้วยกระดูกทุกท่อน
There's no mechanic
ไม่ต้องมีคนคอยดูแล
That can't understand what I'm on
เพราะเขาไม่เข้าใจหรอกว่าฉันเป็นอะไรไป
[Ashley:]
Let's crank it up (crank it up)
มาเหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Until the walls cave in
จนกว่ากำแพงเกิดอุโมงค์
Crank it up (Crank it up)
เหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Put the record on spin
ใส่แผ่นเสียงลงในเครื่อง
Cause I am ready to party
ฉันพร้อมแล้วสำหรับงานเลี้ยง
Gonna get my girls and get naughty
เหล่าเพื่อนสาวพากันมาออกลายกันหน่อย
Crank it up (Crank it up)
เหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Until the walls cave in
จนกว่ากำแพงเกิดอุโมงค์
Just crank it up
แค่เหวี่ยงให้สุดแรง
Oh, oh, oh, whoa
Oh, oh, oh, whoa (Crank it up)
Oh, oh, oh, whoa
Oh, oh, oh, whoa
Th-Th-This beat is melodic
จังหวะแบบนี้มันช่างไพเราะ
Harmonic, got me striking poses
ผสมกลมกลืนจนฉันต้องเก็กท่าทาง
I get up on it, electronically feeling so fresh
ฉันผสานไปกับมัน ดนตรีอิเล็กทรอนิคช่างสดใหม่
It's so erotic my body's like a cyclone
กระตุ้นอารมณ์เหลือเกิน ร่างกายของฉันเหมือนพายุ
I'm like a puppet, can't stop it
ราวกับเป็นหุ่นเชิด ไม่อาจหยุดได้
Drop it like a stone
ทิ้งตัวอย่างมีน้ำหนัก
[Sean Garrett:]
It's so cinematic
อย่างกับภาพยนตร์
Charismatic
ที่มีความสามารถพิเศษ
[Sean + Ashley:]
G-Got me froze up
ทำเอาฉันแข็งทื่อไปเลย
[Sean Garrett:]
This psychopathic
ต้อต้านระเบียบสังคม
Beat is something
จังหวะเป็นอะไรบางสิ่ง
[Sean + Ashley:]
I need a dose of
ฉันต้องการเพิ่มขึ้นอีก
I'm systematic
ฉันมีระบบของตัวเอง
Mo-Moving every single bone
ออกท่าทางด้วยกระดูกทุกท่อน
There's no mechanic
ไม่ต้องมีคนคอยดูแล
That can't understand what I'm on
เพราะเขาไม่เข้าใจหรอกว่าฉันเป็นอะไรไป
[Ashley:]
Let's crank it up (crank it up)
มาเหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Until the walls cave in
จนกว่ากำแพงเกิดอุโมงค์
Crank it up (Crank it up)
เหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Put the record on spin
ใส่แผ่นเสียงลงในเครื่อง
Cause I am ready to party
ฉันพร้อมแล้วสำหรับงานเลี้ยง
Gonna get my girls and get naughty
เหล่าเพื่อนสาวพากันมาออกลายกันหน่อย
Crank it up (Crank it up)
เหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Until the walls cave in
จนกว่ากำแพงเกิดอุโมงค์
Just crank it up
แค่เหวี่ยงให้สุดแรง
[Sean + Ashley:]
Up, up, up, DJ, up, up, up
ดีเจ เพิ่มอีก แรงอีก เอาอีก
Turn it up, turn it up, turn it up louder!
เร่งมันอีก เร่งมันอีก เร่งมันอีกให้ดังไปเลย!
[Ashley:]
Let's crank it up (crank it up)
มาเหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Until the walls cave in
จนกว่ากำแพงเกิดอุโมงค์
Crank it up (Crank it up)
เหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Put the record on spin
ใส่แผ่นเสียงลงในเครื่อง
Cause I am ready to party
ฉันพร้อมแล้วสำหรับงานเลี้ยง
Gonna get my girls and get naughty
เหล่าเพื่อนสาวพากันมาออกลายกันหน่อย
Crank it up (Crank it up)
เหวี่ยงให้สุดแรง (เหวี่ยงเลย)
Until the walls cave in
จนกว่ากำแพงเกิดอุโมงค์
Just crank it up
แค่เหวี่ยงให้สุดแรง
I systematically mo-move every bone
เต้นไปอย่างมีระบบ เคลื่อนไหวด้วยกระดูกทุกท่อน
So crank it up I wanna get in the zone
เหวี่ยงให้สุดแรง ฉันอยากจะเข้าไปตรงนั้น
I systematically mo-move every bone
เต้นไปอย่างมีระบบ เคลื่อนไหวด้วยกระดูกทุกท่อน
So crank it up I wanna get in the zone
เหวี่ยงให้สุดแรง ฉันอยากจะเข้าไปตรงนั้น
คุยกันต่อหลังแปลเพลง:
อาจเป็นเพราะฐานแฟนคลับของ Ashley Tisdale หลายคนยังรับกับการเปลี่ยนแนวของนางไม่ได้ เพลง Crank It Up จึงกลายมาเป็นเพลงโปรโมทเพลงที่สอง (และกลายเป็นเพลงโปรโมทสุดท้ายของอัลบั้มด้วย) เนื่องจากเพลงนี้มีความหมายที่เกี่ยวกับการเต้นในงานเลี้ยง สนุกสุดเหวี่ยง และภาพดนตรีก็ออกจะเป็นแนวอิเล็กทรอนิคป็อปด้วย ซึ่งต่างจากเพลงอื่นในอัลบั้มที่คงความเป็นป็อปร็อคและมีความหมายเพลงเกี่ยวกับการเป็นหญิงแกร่งมาโดยตลอด ในความคิดของผม ผมคิดว่าทีมงานคงกลัวอัลบั้มจะแป้กเพราะการฉีกภาพลักษณ์เดิมของนางไป จึงทำเพลงนี้มาใส่เป็นเพลงแถม เพื่อใช้เป็นแผนโปรโมทสำรอง และท้ายที่สุดมันก็กลายเป็นแผนจริงที่ต้องเอาออกมาโปรโมทเพื่อกระตุ้นยอดขายของอัลบั้มชุดนี้ เนี่ยแหละผลลัพธ์ของการเป็นขวัญใจวัยรุ่นโดยเฉพาะ จึงไม่อาจฉีกตัวเองไปเป็นอย่างอื่นได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เคยเกิดกับ Christina Aguilera ตอนออกอัลบั้มชุด Stripped เหมือนกัน ที่ทำเอาเด็กสาวแนวใสหลายคนเลิกเป็นแฟนคลับเธอ แต่ถือว่าเป็นดวงดีของ Christina Aguilera ที่เธอเป็นศิลปินนักร้อง เมื่อฉีกแนวไปจึงเกิดแฟนคลับหน้าใหม่เพิ่มขึ้นตาม แต่กรณีของ Ashley Tisdale นางเกิดมากับการเป็นนักแสดง ดังนั้นนางจึงฉีกภาพลักษณ์ได้ยากกว่านักร้องหลายเท่าตัว อันที่จริงแฟนคลับของนางหลายคนยังติดภาพที่นางเป็นตัวละครในไฮสคูล มิวสิเคิลอยู่เลยด้วยซ้ำ.
อาจเป็นเพราะฐานแฟนคลับของ Ashley Tisdale หลายคนยังรับกับการเปลี่ยนแนวของนางไม่ได้ เพลง Crank It Up จึงกลายมาเป็นเพลงโปรโมทเพลงที่สอง (และกลายเป็นเพลงโปรโมทสุดท้ายของอัลบั้มด้วย) เนื่องจากเพลงนี้มีความหมายที่เกี่ยวกับการเต้นในงานเลี้ยง สนุกสุดเหวี่ยง และภาพดนตรีก็ออกจะเป็นแนวอิเล็กทรอนิคป็อปด้วย ซึ่งต่างจากเพลงอื่นในอัลบั้มที่คงความเป็นป็อปร็อคและมีความหมายเพลงเกี่ยวกับการเป็นหญิงแกร่งมาโดยตลอด ในความคิดของผม ผมคิดว่าทีมงานคงกลัวอัลบั้มจะแป้กเพราะการฉีกภาพลักษณ์เดิมของนางไป จึงทำเพลงนี้มาใส่เป็นเพลงแถม เพื่อใช้เป็นแผนโปรโมทสำรอง และท้ายที่สุดมันก็กลายเป็นแผนจริงที่ต้องเอาออกมาโปรโมทเพื่อกระตุ้นยอดขายของอัลบั้มชุดนี้ เนี่ยแหละผลลัพธ์ของการเป็นขวัญใจวัยรุ่นโดยเฉพาะ จึงไม่อาจฉีกตัวเองไปเป็นอย่างอื่นได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เคยเกิดกับ Christina Aguilera ตอนออกอัลบั้มชุด Stripped เหมือนกัน ที่ทำเอาเด็กสาวแนวใสหลายคนเลิกเป็นแฟนคลับเธอ แต่ถือว่าเป็นดวงดีของ Christina Aguilera ที่เธอเป็นศิลปินนักร้อง เมื่อฉีกแนวไปจึงเกิดแฟนคลับหน้าใหม่เพิ่มขึ้นตาม แต่กรณีของ Ashley Tisdale นางเกิดมากับการเป็นนักแสดง ดังนั้นนางจึงฉีกภาพลักษณ์ได้ยากกว่านักร้องหลายเท่าตัว อันที่จริงแฟนคลับของนางหลายคนยังติดภาพที่นางเป็นตัวละครในไฮสคูล มิวสิเคิลอยู่เลยด้วยซ้ำ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น