Zam Zatoru

"ผมแค่อยากแปลเนื้อเพลงภาษาอังกฤษให้เป็นภาษาไทย ส่วนหนึ่งก็เพื่อเพิ่มเติมความรู้ให้กับตัวเอง
ดังนั้นการแปลของผมจึงอาจไม่ถูกต้องและสมบูรณ์แบบนัก แต่ผมทำด้วยความตั้งใจจริง
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกบทความของผมจะสร้างความสุขให้แก่ท่านที่ผ่านเข้ามา
ถ้าหากผิดพลาดประการใด ผมขออภัยมา ณ. ที่นี่ด้วย" - Zam Zatoru (18 กรกฎาคม 2559)

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2559

Avril Lavigne - Sk8er Boi

Name : Sk8er Boi
Artist : Avril Lavigne
Album : Let Go
Writers : Avril Lavigne, Lauren Christy, Graham Edwards and Scott Spock


He was a boy.
เขาเป็นผู้ชาย
She was a girl.
ส่วนเธอเป็นผู้หญิง
Can I make it anymore obvious?
ให้ฉันบอกข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้อีกไหม?
He was a punk.
เขาเป็นเด็กแว้น
She did ballet.
ส่วนเธอเต้นบัลเลต์
What more can I say?
จะให้ฉันพูดอะไรได้อีก?
He wanted her.
เขาต้องการเธอ
She'd never tell.
แต่เธอกลับไม่เคยบอก
Secretly she wanted him as well.
ความลับที่ว่าเธอก็ต้องการเขาเช่นกัน
And all of her friends stuck up their nose.
แล้วพวกเพื่อนสาวของเธอก็หยิ่งจองหอง
They had a problem with his baggy clothes.
ต่างพากันไม่ชอบใจเสื้อผ้ารุ่มร่ามที่เขาสวมใส่อยู่

He was a skater boy.
เขาเป็นพวกเล่นสเก็ตเตอร์
She said, "See ya later, boy."
เธอพูดว่า "ลาก่อนเหอะ นาย"
He wasn't good enough for her.
เขาดีไม่พอสำหรับผู้หญิงอย่างเธอ
She had a pretty face but her head was up in space.
เธอมีใบหน้างดงามแต่กลับมีรสนิยมสูงไปไกลถึงอวกาศ
She needed to come back down to earth.
เธอควรลดลงมามองบนพื้นโลกเสียบ้าง

Five years from now, she sits at home feeding the baby.
ห้าปีต่อจากนี้ เธอนั่งอยู่บ้านกำลังป้อนอาหารให้กับเด็ก
She's all alone.
อ้างว้างคนเดียว
She turns on TV and guess who she sees?
เลยเปิดโทรทัศน์และเดาสิว่าเธอเห็นใคร?
Skater boy rockin' up MTV.
เด็กแว้นคนนั้นกำลังเล่นดนตรีในรายการเอ็มทีวี
She calls up her friends.
เธอโทรศัพท์ไปหาเพื่อนสาว
They already know.
ซึ่งพวกนั้นรู้เรื่องดีอยู่แล้ว
And they've all got tickets to see his show.
แล้วยังมีบัตรเข้าชมการแสดงของเขาอีกด้วย
She tags along,
เธอจึงตามไป
Stands in the crowd,
ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน
Looks up at the man that she turned down.
เงยหน้ามองชายคนที่ตัวเองเคยปฏิเสธไป

He was a skater boy.
เขาเป็นพวกเล่นสเก็ตเตอร์
She said, "See ya later, boy."
เธอพูดว่า "ลาก่อนเหอะ นาย"
He wasn't good enough for her.
เขาดีไม่พอสำหรับผู้หญิงอย่างเธอ
Now he's a superstar
ตอนนี้เขาเป็นคนดัง
Slammin' on his guitar
ดีดสายกีต้าร์อย่างเมามัน
Does your pretty face see what he's worth?
เธอที่มีใบหน้างดงามเห็นไหมว่าเขาคู่ควรไหม?

He was a skater boy.
เขาเป็นพวกเล่นสเก็ตเตอร์
She said, "See ya later, boy."
เธอพูดว่า "ลาก่อนเหอะ นาย"
He wasn't good enough for her.
เขาดีไม่พอสำหรับผู้หญิงอย่างเธอ
Now he's a superstar
ตอนนี้เขาเป็นคนดัง
Slammin' on his guitar
ดีดสายกีต้าร์อย่างเมามัน
Does your pretty face see what he's worth?
เธอที่มีใบหน้างดงามเห็นไหมว่าเขาคู่ควรไหม?

Sorry, girl, but you missed out.
เสียใจกับเธอด้วยที่ทำพลาดไป
Well, tough luck, that boy's mine now.
โชคไม่ดีเลยที่เขากลายเป็นของฉันแล้ว
We are more than just good friends.
เราสองคนเป็นมากกว่าแค่เพียงเพื่อนกัน
This is how the story ends.
เรื่องราวมันจบลงแบบนี้
Too bad that you couldn't see.
แย่หน่อยนะที่เธอมองไม่ออก
See that man that boy could be.
ว่าผู้ชายคนนั้นสามารถเป็นอะไรได้บ้าง
There is more than meets the eye,
เขามีดีมากกว่าที่ใช้เพียงสายตามอง
I see the soul that is inside.
ซึ่งฉันเห็นจิตวิญญาณที่อยู่ข้างในนั้น

He's just a boy, and I'm just a girl.
เขาเป็นผู้ชาย ส่วนฉันเป็นผู้หญิง
Can I make it anymore obvious?
ให้ฉันบอกข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้อีกไหม?
We are in love.
เราสองคนรักกัน
Haven't you heard how we rock each other's world?
เธอไม่ได้ฟังเนื้อเพลงอันโด่งดังไปทั่วโลกหรอกเหรอ?

I'm with the skater boy.
ฉันอยู่กับเด็กแว้นที่เล่นสเก็ตเตอร์
I said, "See ya later, boy."
ฉันพูดว่า "แล้วเจอกันนะ"
I'll be backstage after the show.
ฉันจะอยู่หลังเวทีเมื่อการแสดงจบลง
I'll be at the studio singing the song we wrote
ฉันจะอยู่ที่ห้องอัดเสียงแล้วร้องเพลงที่เราแต่งขึ้น
About a girl you used to know.
เพลงเกี่ยวกับผู้หญิงที่เขาเคยรู้จัก

I'm with the skater boy.
ฉันอยู่กับเด็กแว้นที่เล่นสเก็ตเตอร์
I said, "See ya later, boy."
ฉันพูดว่า "แล้วเจอกันนะ"
I'll be backstage after the show.
ฉันจะอยู่หลังเวทีเมื่อการแสดงจบลง
I'll be at the studio singing the song we wrote
ฉันจะอยู่ที่ห้องอัดเสียงแล้วร้องเพลงที่เราแต่งขึ้น
About a girl you used to know.
เพลงเกี่ยวกับผู้หญิงที่เขาเคยรู้จัก


คุยกันต่อหลังแปลเพลง:

ตอนฟังครั้งแรกผมรู้สึกว่าจังหวะเพลงช่างเมามันเหลือเกิน ยิ่งตอนหลังได้เข้าใจเนื้อเพลงแล้วยิ่งทำให้สะใจมากเข้าไปอีก ตัวเพลงเหมือนกับภาพยนตร์วัยรุ่นที่พูดถึงผู้ชายที่หลงรักผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เธอกลับปฏิเสธเขาไปด้วยความหัวสูงและแรงกดดันจากเพื่อนรอบข้าง ทั้งที่ความจริงเธอก็ชอบเขาอยู่เหมือนกัน จนเวลาผ่านเลยไป เขากลายเป็นนักร้องคนดังที่ตอกย้ำว่าเธอตัดสินใจผิดพลาดแค่ไหน และตอนนี้เขามีคนใหม่แล้วด้วย ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น Avril Lavigne นั่นเอง ผมเคยได้ยินข่าวว่ามีการซื้อเพลงดังกล่าวเอาไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ด้วย แต่ถึงบัดนี้มันกลับไร้วี่แววราวกับหาซากศพไม่เจอ

คำพูดที่ว่า See ya later มีความหมายว่า "แล้วเจอกัน" แต่ยังมีอีกนัยหนึ่งที่หมายถึง "ลาก่อน" เพื่อเป็นการตัดสายสัมพันธ์แบบถนอมน้ำใจ ส่วนคำว่า Stuck up มีความหมายว่า "หยิ่ง, จองหอง หรือคิดว่าตัวเองเก่งและแน่กว่าคนอื่นทั่วไป".

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น